รู้กันในวงการสุดยอด “เครื่องรางของขลัง” ที่เป็นที่สุด...ความนิยมประดุจดั่งพระเครื่องเบญจภาคี...
ใครมีไว้ครอบครองนั่นหมายถึงสุดยอดแห่งความเป็นหนึ่งไม่เป็นสองรองใคร
“ม้าเสพนาง”...อีกเครื่องรางของขลังสายเมตตามหานิยม เสน่ห์รุนแรง ว่ากันว่าเป็นหนึ่งในสี่สุดยอดมหาเสน่ห์... วัวเสพนาง หนูกินน้ำนมแมว วัวกินน้ำนมเสือแต่โบราณนานมา “ม้าเสพนาง” น่าจะมีจุดเริ่มมาจากพม่าแล้ว แผ่ขยายมายังล้านนา ขลังถึงขนาดที่ว่า ชายใดจะไปเที่ยวหากพกติดตัวไปด้วย จักต้องได้สาวนั่นปะไร
“ใครมีไว้บูชา...หญิงเห็นหญิงรัก ชายเห็นชายรัก มีเสน่ห์แก่ผู้พบเห็น เกิดเมตตารักใคร่...สมหวัง เรื่องความรัก ชีวิตครอบครัวมีความสุขความเจริญ ไปที่แห่งหนตำบลใดก็มีคนให้ความอนุเคราะห์อุ้มชู ไม่อดอยากยากไร้... คนอยากพูดคุย อยากรู้จัก มีเสน่ห์ดีนักแล...”
ที่กล่าวถึงกันก็มี ม้าเสพนาง ครูบาชัยชนะ...ผ้ายันต์ม้าเสพนาง อิ๋นม้ามหา-เสน่ห์ หลวงพ่อกอย...อิ๋นคู่
ประวัติยันต์ม้าเสพนางเป็นยันต์ที่มีในแวดวงยันต์ด้านเสน่ห์ของล้านนา มานานเชื่อกันว่าเป็นยันต์ที่มาจากทางพม่า เงี้ยว มีมาในล้านนาเมื่อไหร่ไม่มีไครทราบ แต่โบราณล้านนานิยมใช้ยันต์นี้กันมาก เนื่องจากไห้ผลทางด้านเสน่ห์
ม้าเสพนางเป็นหนึ่งใน 4 สุดยอดเสน่ห์ โดยมี
1 ม้าเสพนาง
2 วัวเสพนาง
3 หนูกินน้ำนมแมว
4 วัวกินน้ำนมเสือ
ม้าเสพนางเป็นหนึ่งใน 4 สุดยอดเสน่ห์ โดยมี
1 ม้าเสพนาง
2 วัวเสพนาง
3 หนูกินน้ำนมแมว
4 วัวกินน้ำนมเสือ
ตามตำนานเล่าไว้ว่า มีครอบครัวหนึ่งมีลูกสาวสวยมาก ครอบครัวนี้เลี้ยงม้าตัวผู้อยู่หนึ่งตัวมีลักษณะงามยิ่งนัก หญิงสาวดูแลม้าทุกวันจนเกิดความใกล้ชิดกับอาชาหนุ่ม จึงบังเกิดความรักใคร่ต่อม้าหนุ่ม ต่อมาจึงได้เสพกาม กับม้าหนุ่ม ผู้เป็นพ่อได้ทราบเรื่องนี้เข้าจึงโกธรและอับอายมาก ถึงกับฆ่าม้าตัวนั้นตาย หญิงสาวเสียใจมาก จึงกลั้นใจตายตามม้าตัวนั้นไป
รูปยันต์ม้าเสพนางตามตำราของโบราณมีคติธรรม มีปริศนาธรรมแผงไว้ หาใช่เป็นเครื่องรางทางลามก
อนาจารอย่างอย่างที่หลายคนเข้าใจ
ม้าเสพนาง กับปริศนาธรรมที่แฝงอยู่
ม้าเสพนาง ศิลปะของเครื่องรางที่พระเกจิลานนายุคเก่า แต่งสร้างขึ้นคู่กับอิ้นใครจะล่วงรู้ประวัติยาวนานอันแฝงด้วยสัจธรรม หาใช่แต่ฤทธานุภาพหรือเสน่หามายาที่คนปรารถนาโลกๆๆอย่างเดียวหรือใช่แค่สมาธิจิตผู้เสกสร้างด้วยคาถา
หารู้ไม่ว่านั้นคือการพิจารณาธรรมที่แฝงไว้เตือนใจของคนยุคเก่าผ่านรูปลักษณ์หากอิ้นหรือรูปชายหญิง
กอดกันแสดงการ กำเนิดแห่งสันตติในสมดุลรูปนามแล้ว ...
ม้าเสพนางมีความหมายลึกกว่าที่คิดนัก
ในศาสนาพราหมณ์ดั้งเดิม ม้าเป็นเทพโบราณที่ชนอริยะกะนับถือแทนพระอาทิตย์เทพคือความสว่างในใจรู้ แทนเทพกฤท อัศวิน เทพคู่แฝดที่ช่วยคนทำดี อันพัฒนาการมาเป็นพระอวโลกิเตศววรษทักษรีโลเกศวรในอินเดียที่แทนการตื่นรู้ด้วยเมตตากรุณาต่อสรรพชีวิต
ทั้งนี้ 900 ปีก่อนในศรีลังกา ม้ายังเป็นสัญลักษณ์แทนการตื่นรู้ฝึกฝนตนให้พ้นจากกิเลสเป็นการเข้าใจ
การเวียนว่ายในสังสารวัฏ จึงแทนด้วยรูปม้าเพื่อเป็นตัวแทนแห่งการฝึกฝนตนในการเรียนรู้โลก คือ มายาแทนสตรี ที่สวมกอดม้าอยู่ เป็นการกำเนิดแห่งอวิชชาที่ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าภพชาติเป็นสิ่งฝึกฝนวิริยะในการตื่นรู้ ให้ตื่น จากความหลง ความโลภ ความโกรธจึงเป็นอิสระจาก เครื่องผูกมัดกายใจ
ม้าเสพนาง จึงเป็นปริศนาธรรมที่สอนให้ตื่นรู้ใช่ลุ่มหลงในมายา จากการใช้ม้าแทนการตื่นรู้ฝึกฝนผ่านกาลเวลา จึงเลือนหายการรู้แจ้งสัจจะ เห็นเพียงสมมติที่สร้างแต่เรืองอานุภาพด้วยสมาธิที่เกิดจากการพิจารณาธรรม
ม้าเสพนางนี้ มายาข้ามมายา
ด้วยตื่นรู้ คือรู้สัจจะที่แฝงอยู่ในมายา
ใช่หลงไปตามมายา ด้วยงมงาย
ถ้าพูดถึงผ้ายันต์ด้านเมตตามหาเสน่ห์ ที่โด่งดังคงต้องยกให้ ผ้ายันต์ม้าเสพนางของท่านครูบาวัง วัดบ้านเด่น จ.ตาก ผ้ายันต์ม้าเสพนางของท่านขึ้นชื่ออย่างมากทางด้านมหาเสน่ห์ เป็นที่เสาะแสวงหากัน ของแท้มีน้อยมากเพราะในการ สร้างแต่ละครั้ง ไม่ได้สร้างกันครั้งละมาก ๆ แต่จะสร้างให้เฉพาะเป็นรายบุคคลที่มาขอท่านโดยตรงเท่านั้น
แต่ถ้าเป็นยุคปลายที่ปั๊มจากแท่นสกรีนก็จะมีมากขึ้นมาหน่อย ผ้าที่ใช้ในการสร้างผ้ายันต์ ยุคต้น และยุคกลาง ก็จะต้องเป็นผ้าดิบที่ผ่านการห่อศพมาแล้ว เป็นสูตรอย่างหนึ่งในการทำผ้ายันต์ของท่าน โดยนำมาวาด ลงอักขระ เลขยันต์และปลุกเสก ผ้ายันต์เขียนมือด้วยหมึกผืนนี้ ถือเป็นผ้ายันต์ยุคต้น ๆ ขนาดของผ้ายันต์ผืนนี้ ประมาณ 1ฟุตกว่า x 1ฟุตกว่า ทำจากผ้าห่อศพ
"ยันต์ม้าเสพนาง จึงเป็นยันต์ที่ให้ผลทางด้านราคะ ตัณหากามารมณ์รุนแรง ผู้ที่จะใช้ หากมีศีลธรรม
นำไปใช้ในทางที่ดี กับผู้ที่ยังไม่มีเจ้าของ หรือ แฟนของเรา และยังเลี้ยงดู ดูแลเขาด้วยจะนับเป็นการดี
แต่ถ้าหาก นำไปใช้ในทางที่ผิดศีลธรรม ผิดลูกผิดเมียเขา ยันต์นี้แม้จะได้ผล แต่ก็จะได้ผลไม่มาก
และอาจเสื่อมในที่สุด"
ส่วนคาถาใช้เสกยันต์ม้าเสพนาง สำหรับท่านที่มีผ้ายันต์ม้าเสพนาง และ ตะกรุดม้าเสพนาง
ตั้งนะโม 3 จบ แล้วภาวนา คาถาเสกยันต์ม้าเสพนาง ดังนี้ โอม กามะตัณหา ภะวะตัณหา วิภะวะตัณหา กามะราคะ ตัณหา มะโน รัมมา ปิยา สวาหูม ( จะ 3 จบ หรือ 7 จบก็ได้)
รูปยันต์ม้าเสพนางตามตำราของโบราณมีคติธรรม มีปริศนาธรรมแผงไว้ หาใช่เป็นเครื่องรางทางลามก
อนาจารอย่างอย่างที่หลายคนเข้าใจ
ม้าเสพนาง กับปริศนาธรรมที่แฝงอยู่
ม้าเสพนาง ศิลปะของเครื่องรางที่พระเกจิลานนายุคเก่า แต่งสร้างขึ้นคู่กับอิ้นใครจะล่วงรู้ประวัติยาวนานอันแฝงด้วยสัจธรรม หาใช่แต่ฤทธานุภาพหรือเสน่หามายาที่คนปรารถนาโลกๆๆอย่างเดียวหรือใช่แค่สมาธิจิตผู้เสกสร้างด้วยคาถา
หารู้ไม่ว่านั้นคือการพิจารณาธรรมที่แฝงไว้เตือนใจของคนยุคเก่าผ่านรูปลักษณ์หากอิ้นหรือรูปชายหญิง
กอดกันแสดงการ กำเนิดแห่งสันตติในสมดุลรูปนามแล้ว ...
ม้าเสพนางมีความหมายลึกกว่าที่คิดนัก
ในศาสนาพราหมณ์ดั้งเดิม ม้าเป็นเทพโบราณที่ชนอริยะกะนับถือแทนพระอาทิตย์เทพคือความสว่างในใจรู้ แทนเทพกฤท อัศวิน เทพคู่แฝดที่ช่วยคนทำดี อันพัฒนาการมาเป็นพระอวโลกิเตศววรษทักษรีโลเกศวรในอินเดียที่แทนการตื่นรู้ด้วยเมตตากรุณาต่อสรรพชีวิต
ทั้งนี้ 900 ปีก่อนในศรีลังกา ม้ายังเป็นสัญลักษณ์แทนการตื่นรู้ฝึกฝนตนให้พ้นจากกิเลสเป็นการเข้าใจ
การเวียนว่ายในสังสารวัฏ จึงแทนด้วยรูปม้าเพื่อเป็นตัวแทนแห่งการฝึกฝนตนในการเรียนรู้โลก คือ มายาแทนสตรี ที่สวมกอดม้าอยู่ เป็นการกำเนิดแห่งอวิชชาที่ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าภพชาติเป็นสิ่งฝึกฝนวิริยะในการตื่นรู้ ให้ตื่น จากความหลง ความโลภ ความโกรธจึงเป็นอิสระจาก เครื่องผูกมัดกายใจ
ม้าเสพนาง จึงเป็นปริศนาธรรมที่สอนให้ตื่นรู้ใช่ลุ่มหลงในมายา จากการใช้ม้าแทนการตื่นรู้ฝึกฝนผ่านกาลเวลา จึงเลือนหายการรู้แจ้งสัจจะ เห็นเพียงสมมติที่สร้างแต่เรืองอานุภาพด้วยสมาธิที่เกิดจากการพิจารณาธรรม
ม้าเสพนางนี้ มายาข้ามมายา
ด้วยตื่นรู้ คือรู้สัจจะที่แฝงอยู่ในมายา
ใช่หลงไปตามมายา ด้วยงมงาย
ถ้าพูดถึงผ้ายันต์ด้านเมตตามหาเสน่ห์ ที่โด่งดังคงต้องยกให้ ผ้ายันต์ม้าเสพนางของท่านครูบาวัง วัดบ้านเด่น จ.ตาก ผ้ายันต์ม้าเสพนางของท่านขึ้นชื่ออย่างมากทางด้านมหาเสน่ห์ เป็นที่เสาะแสวงหากัน ของแท้มีน้อยมากเพราะในการ สร้างแต่ละครั้ง ไม่ได้สร้างกันครั้งละมาก ๆ แต่จะสร้างให้เฉพาะเป็นรายบุคคลที่มาขอท่านโดยตรงเท่านั้น
แต่ถ้าเป็นยุคปลายที่ปั๊มจากแท่นสกรีนก็จะมีมากขึ้นมาหน่อย ผ้าที่ใช้ในการสร้างผ้ายันต์ ยุคต้น และยุคกลาง ก็จะต้องเป็นผ้าดิบที่ผ่านการห่อศพมาแล้ว เป็นสูตรอย่างหนึ่งในการทำผ้ายันต์ของท่าน โดยนำมาวาด ลงอักขระ เลขยันต์และปลุกเสก ผ้ายันต์เขียนมือด้วยหมึกผืนนี้ ถือเป็นผ้ายันต์ยุคต้น ๆ ขนาดของผ้ายันต์ผืนนี้ ประมาณ 1ฟุตกว่า x 1ฟุตกว่า ทำจากผ้าห่อศพ
"ยันต์ม้าเสพนาง จึงเป็นยันต์ที่ให้ผลทางด้านราคะ ตัณหากามารมณ์รุนแรง ผู้ที่จะใช้ หากมีศีลธรรม
นำไปใช้ในทางที่ดี กับผู้ที่ยังไม่มีเจ้าของ หรือ แฟนของเรา และยังเลี้ยงดู ดูแลเขาด้วยจะนับเป็นการดี
แต่ถ้าหาก นำไปใช้ในทางที่ผิดศีลธรรม ผิดลูกผิดเมียเขา ยันต์นี้แม้จะได้ผล แต่ก็จะได้ผลไม่มาก
และอาจเสื่อมในที่สุด"
ส่วนคาถาใช้เสกยันต์ม้าเสพนาง สำหรับท่านที่มีผ้ายันต์ม้าเสพนาง และ ตะกรุดม้าเสพนาง
ตั้งนะโม 3 จบ แล้วภาวนา คาถาเสกยันต์ม้าเสพนาง ดังนี้ โอม กามะตัณหา ภะวะตัณหา วิภะวะตัณหา กามะราคะ ตัณหา มะโน รัมมา ปิยา สวาหูม ( จะ 3 จบ หรือ 7 จบก็ได้)